· 2 min read

กิน หรือ อด ดีนะ ก่อนดำน้ำ? ไปดูกันแบบเจาะลึก 🏊‍♂️🤿

กิน หรือ อด ก่อน Freediving ดี?! คำถามชวนปวดหัวพอๆ กับตอนเคลียร์หูไม่ได้ บทความนี้จะพาไปหาคำตอบ ว่ากิน หรือ อด แบบไหนส่งผลดี (หรือแย่?!) กับการดำน้ำ freediving

กิน หรือ อด ก่อน Freediving ดี?! คำถามชวนปวดหัวพอๆ กับตอนเคลียร์หูไม่ได้ บทความนี้จะพาไปหาคำตอบ ว่ากิน หรือ อด แบบไหนส่งผลดี (หรือแย่?!) กับการดำน้ำ freediving

กิน หรือ อด ดีนะ ก่อนดำน้ำ? ไปดูกันแบบเจาะลึก 🏊‍♂️🤿

เอ้า! ใครกำลังเตรียมตัวไปดำน้ำบ้าง? 🙌 ยกมือขึ้น!🙋‍♀️🙋‍♂️ เชื่อว่าหลายคนต้องเคยสงสัยว่า ตกลงแล้วเรากินข้าวไปก่อนดี หรือจะอดไปเลยดีนะ 🤔 คำถามโลกแตกนี้ ตอบผิดตอบถูกชีวิตเปลี่ยนได้เลยนะจ๊ะ บอกเลย! เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะมันส่งผลต่อพลังการดำน้ำ ความปลอดภัย แถมยังรวมไปถึงประสบการณ์ดำน้ำอันแสนสนุกของเราด้วย! ในบล็อกโพสต์สุด Exclusive นี้ เราจะพาไปสำรวจกันแบบทุกซอกทุกมุมเลยว่า การกิน หรือ การอดอาหาร ส่งผลต่อการดำน้ำแบบกลั้นหายใจยังไง? ไปดูผลการวิจัย ข้อมูลเชิงลึกด้านสรีรวิทยา และคำแนะนำที่ใช้ได้จริง เพื่อช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด 🧠✨!

ดำน้ำแบบกลั้นหายใจ มันคืออะไร? ง่ายมาก แค่หายใจ! 🌊

การดำน้ำแบบกลั้นหายใจ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Free-diving ก็คือการดำน้ำแบบไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจนั่นเอง ฟังดูเหมือนง่ายใช่มั้ยล่ะ แค่กลั้นหายใจแล้วก็ดำลงไปเลย! แต่จริงๆ แล้ว กีฬานี้ต้องใช้ทั้งร่างกายและจิตใจที่แข็งแกร่ง แถมยังต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตอบสนองทางสรีรวิทยาของร่างกายต่อการอยู่ใต้น้ำโดยไม่หายใจด้วยนะ! บอกเลย ไม่ง่ายเหมือนที่คิด! 😤

เรื่องสำคัญสุดๆ ของการกลั้นหายใจ? ก็ออกซิเจนไงล่ะ! 💨

แน่นอนว่า การจะกลั้นหายใจอยู่ใต้น้ำได้นานๆ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ “ออกซิเจน” นักดำน้ำมืออาชีพมักมีเทคนิคในการลดการใช้ออกซิเจนของร่างกาย และจัดการระดับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เรารู้สึกอยากหายใจ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากเป็นนักดำน้ำตัวจริง เรื่องการบริหารออกซิเจนต้องมา! 🥇

แล้วเรื่องอาหารการกินล่ะ? เกี่ยวด้วยหรอ? 🥗

บอกเลยว่า “อาหาร” สำคัญมาก! อาหารที่เรากินเข้าไป รวมไปถึงช่วงเวลาที่กิน ส่งผลต่อการใช้ออกซิเจน การผลิต CO2 และความสมดุลของระบบเผาผลาญ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการดำน้ำแบบกลั้นหายใจ! เพราะฉะนั้น กินอะไร? กินตอนไหน? สำคัญ! สำคัญมาก! 🤯

กิน หรือ อด ดีนะ? คำถามชวนปวดหัวของนักดำน้ำ 🍽️❌

คำถามโลกแตกที่ว่า “กิน หรือ อด ดี?” ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือดในหมู่นักดำน้ำและนักวิจัย 🤔 เพื่อทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้มากขึ้น เรามาดูผลการศึกษาที่ชื่อว่า “Diving Response After A One-Week Diet And Overnight Fasting” โดย Giovanna Ghiani และทีมวิจัยกันดีกว่า 🤓📚

ภาพรวมของการศึกษา 📊

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการอดอาหารข้ามคืนหลังจากควบคุมอาหารระยะสั้นต่อการตอบสนองของร่างกายขณะดำน้ำ โดยมีนักดำน้ำชายที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี 8 คน เข้าร่วมในการทดลอง 2 ครั้ง ได้แก่:

  • การทดลอง A: ดำน้ำที่ความลึก 30 เมตร หลังจากรับประทานอาหารเช้าแบบปกติ 3 ชั่วโมง
  • การทดลอง B: ดำน้ำที่ความลึกเท่าเดิม หลังจากควบคุมอาหารและอดอาหารข้ามคืน

การทดลองแต่ละครั้งประกอบด้วยการกลั้นหายใจ 3 ระยะ ได้แก่ การดำลง การอยู่นิ่งใต้น้ำ และการขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยจะมีการวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ทางโลหิตวิทยาและเมตาบอลิซึม ได้แก่ ดัชนีของเหลวทรานส์-ทรวงอก (TFI) ปริมาตรการเต้นของหัวใจ (SV) อัตราการเต้นของหัวใจ (HR) ปริมาณเลือดที่หัวใจสูบฉีดต่อนาที (CO) ความดันโลหิตเฉลี่ย (MBP) ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดง (SaO2) ระดับน้ำตาลในเลือด (Glu) และระดับแลคเตทในเลือด (BLa)

ผลการศึกษาที่น่าสนใจ 🔍

ผลกระทบต่อระยะเวลาในการดำน้ำ ⏱️

ผลปรากฏว่า ระยะเวลาของการอยู่นิ่งใต้น้ำระหว่างการทดลอง B (หลังจากอดอาหาร) นานกว่าการทดลอง A (หลังจากรับประทานอาหารเช้า) อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 37.8 ± 7.4 วินาที เทียบกับ 27.3 ± 8.4 วินาที (P < 0.05) เห็นไหมล่ะว่าแค่เราอดอาหาร ก็ทำให้กลั้นหายใจได้นานขึ้นแล้ว! 😮

การเปลี่ยนแปลงของระบบไหลเวียนโลหิต ❤️

  • ปริมาตรการเต้นของหัวใจ (SV): ระหว่างการอยู่นิ่งใต้น้ำ SV จะต่ำกว่าหลังจากอดอาหาร เทียบกับหลังรับประทานอาหารเช้า
  • ปริมาณเลือดที่หัวใจสูบฉีดต่อนาที (CO): CO จะต่ำกว่าระหว่างการอยู่นิ่งใต้น้ำหลังจากอดอาหาร

ความอิ่มตัวของออกซิเจนและระดับแลคเตทในเลือด 🌡️

เมื่อขึ้นสู่ผิวน้ำ แม้ว่าระยะเวลาในการดำน้ำระหว่างการอดอาหารจะนานขึ้น แต่:

  • SaO2: ความอิ่มตัวของออกซิเจนจะสูงขึ้นหลังจากอดอาหาร (92.0 ± 2.7 vs. 89.4 ± 2.9%, P < 0.05)
  • BLa: ระดับแลคเตทในเลือดจะต่ำกว่าหลังจากอดอาหาร (4.2 ± 0.7 vs. 5.3 ± 1.1 มิลลิโมล·ลิตร−1, P < 0.05)

ตีความผลลัพธ์กัน! 🧠

ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าการอดอาหารก่อนดำน้ำสามารถช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อการดำน้ำได้ดีขึ้น ทำให้สามารถอยู่นิ่งใต้น้ำได้นานขึ้นและจัดการออกซิเจนได้ดีขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจาก:

  • อัตราการเผาผลาญที่ลดลง: การอดอาหารอาจทำให้อัตราการเผาผลาญของร่างกายลดลง ส่งผลให้การใช้ออกซิเจนและการผลิต CO2 ลดลง ก็เหมือนกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันน้อยลงเมื่อขับช้าลงนั่นแหละ!
  • การเคลื่อนไหวของกะบังลมที่ดีขึ้น: เมื่อท้องของเราว่าง การเคลื่อนไหวของกะบังลมและการขยายตัวของปอดก็ทำได้อย่างเต็มที่ ทำให้ควบคุมลมหายใจได้ดีขึ้น เหมือนกับตอนที่เราดื่มน้ำอัดลมมากไป แล้วรู้สึกแน่น แต่ถ้าท้องว่างก็หายใจได้โล่งสบาย! 🌬️
  • การไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น: การอดอาหารอาจช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดดำและ Blood shift ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือดระหว่างการดำน้ำ

กลไกทางสรีรวิทยา 🔬 ฟังดูเหมือนยาก แต่จริงๆ แล้วง่ายมาก!

ผลกระทบของการประหยัดออกซิเจน 🧪

ในช่วงที่เราอดอาหาร ร่างกายของเราจะหันไปใช้ไขมันเป็นพลังงานหลัก ซึ่งกระบวนการนี้ใช้ออกซิเจนน้อยกว่าการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ส่งผลให้ร่างกายสามารถใช้ออกซิเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างการดำน้ำ เหมือนกับเรามีแบตเตอรี่สำรองไว้ใช้นานๆ ยังไงอย่างงั้น! 🔋

การจัดการ CO2 🌬️

การอดอาหารสามารถช่วยลดการผลิต CO2 ทำให้ CO2 ในเลือดไม่สะสมมากเกินไป ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เรารู้สึกอยากหายใจ นั่นหมายความว่า นักดำน้ำจะสามารถกลั้นหายใจได้นานขึ้นและดำได้ดีขึ้นระหว่างการอยู่นิ่งใต้น้ำ! 🐠

การไหลเวียนของเลือดและการเคลื่อนไหวของกะบังลม 🫁

การกินอาหารจนอิ่มเกินไปก่อนดำน้ำ อาจไปรบกวนการเคลื่อนไหวของกะบังลมและการขยายตัวของปอด ทำให้ควบคุมลมหายใจได้ยากขึ้น แต่การอดอาหารสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ทำให้กะบังลมเคลื่อนไหวได้สะดวก และปอดสามารถขยายตัวได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้การหายใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนกับเรามีพื้นที่ในปอดมากขึ้น ทำให้หายใจได้ลึกและนานขึ้น! 💪

คำแนะนำที่ใช้ได้จริงสำหรับนักดำน้ำทุกคน 💡

จากผลการศึกษาและข้อมูลเชิงลึกทางสรีรวิทยา เรามีคำแนะนำดีๆ สำหรับนักดำน้ำที่กำลังตัดสินใจว่าจะกินหรืออดอาหารก่อนดำน้ำ ดังนี้:

อดอาหารก่อนดำน้ำ 🕰️

  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ควรอดอาหารอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนดำน้ำ เช่น ถ้าจะดำน้ำตอนเช้า ก็ควรงดอาหารหลังจากมื้อเย็นของวันก่อนหน้า
  • การดื่มน้ำ: ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในช่วงที่อดอาหาร เพื่อรักษาปริมาณเลือดให้เป็นปกติและป้องกันภาถขาดน้ำ เพราะฉะนั้น จิบน้ำบ่อยๆ ได้ แต่อย่าเผลอกินขนมเข้าไปล่ะ! 🚰
  • สารอาหารที่สมดุล: ในช่วง 2-3 วัน ก่อนวันดำน้ำ ควรกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ เช่น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน โปรตีน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานสำรองเพียงพอ งดของทอด ของมัน ไปก่อนนะจ๊ะ! 🥗

กินอาหารก่อนดำน้ำ 🍴

  • ช่วงเวลากินอาหาร: ถ้าเลือกที่จะกินอาหารก่อนดำน้ำ ควรกินอาหารมื้อเบาๆ อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงก่อนดำน้ำ เพื่อให้เวลาร่างกายย่อยอาหารอย่างเต็มที่ อย่ากินแล้วโดดลงน้ำทันทีล่ะ!
  • ชนิดของอาหาร: ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่าย และให้พลังงานแก่ร่างกายอย่างต่อเนื่อง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ และโปรตีนไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด และอาหารที่มีกากใยสูง เพราะอาจทำให้เกิดอาหารไม่ย่อย แล้วจะพาลสนุกกับการดำน้ำไม่เต็มที่เอาได้นะ! 🍎
  • ปริมาณอาหาร: ควรกินอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ อย่ากินจนอิ่มเกินไป เพราะอาจทำให้รู้สึกอึดอัด และรบกวนการเคลื่อนไหวของกะบังลม จำไว้ว่า เราไม่ได้กินเพื่อไปประกวดกินจุ!

บทสรุป 🏁

การตัดสินใจว่าจะกินหรืออดอาหารก่อนดำน้ำ เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของนักดำน้ำทุกคน ผลการศึกษาของ Giovanna Ghiani และทีมวิจัยได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการอดอาหารก่อนดำน้ำ สามารถช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อการดำน้ำได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการออกซิเจน และยืดเวลาในการกลั้นหายใจได้ อย่างไรก็ตาม ร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน นักดำน้ำจึงควรพิจารณาความต้องการและความชอบของตัวเองด้วย

สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการหาสมดุลที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ว่าจะเลือกกินหรืออดอาหารก่อนดำน้ำ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่า กลยุทธ์ทางโภชนาการที่เราเลือก จะช่วยสนับสนุนประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีของเรา ระหว่างการดำน้ำอย่างแท้จริง ขอให้ทุกคนสนุกและปลอดภัยกับการดำน้ำ! 😄🌊


หมายเหตุจากผู้เขียน: บล็อกโพสต์นี้เขียนขึ้นโดยอ้างอิงจากผลการวิจัย และมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือนักดำน้ำมืออาชีพ ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงอาหารหรือพฤติกรรมการดำน้ำอย่างกะทันหัน

Back to Blog